จี้ กคศ. สั่งเลิกผลสอบครูดีเอสไอประกบทีมทุจริต

29 เมษายน 2556

‘เลขาฯกพฐ.’แจง ก.ค.ศ.ยังไม่มีมติเรียกผู้สอบคัดเลือกครูผู้ช่วยที่คะแนนสูงผิดปกติทั้ง 509 คน มารับการทดสอบใหม่

ความคืบหน้ากรณีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ระบุว่าที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีมติให้ส่งข้อมูลของผู้ที่สอบคัดเลือกครูผู้ช่วย กรณีมีความจำเป็น หรือเหตุพิเศษ ว12 ครั้งที่ผ่านมา จำนวน 509 คน ที่มีคะแนนสูงผิดปกติเกิน 180 คะแนน จากคะแนนเต็ม 200 คะแนน ไปให้คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษา ใช้ประกอบการพิจารณายกเลิกผลการสอบ หากส่อว่าทุจริต โดยเทียบกับข้อมูลผลการเรียน และผลการสอบครั้งก่อนๆ รวมทั้งให้มีการจัดทดสอบใหม่ เพื่อพิสูจน์ว่าใครทำข้อสอบได้เอง และใครที่ทุจริตการสอบนั้น
เมื่อวันที่ 27 เมษายน นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า จริงๆ แล้วมติของ ก.ค.ศ.ครั้งที่ผ่านมา ยังไม่ชัดเจนว่าจะต้องให้ผู้สอบได้คะแนนสูงผิดปกติทั้ง 509 คน มาเข้ารับการทดสอบใหม่ แต่มีมติให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ส่งสำเนากระดาษคำตอบของคนเหล่านี้ พร้อมคะแนนที่ผิดปกติไปให้เขตพื้นที่การศึกษา 130 เขต และสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สพฐ. เพื่อให้คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่ฯ ดำเนินการพิจารณาที่จะยกเลิกผลการสอบ โดยได้กำหนดแนวปฏิบัติเอาไว้ อาทิ ให้นำรายชื่อผู้ที่สอบได้คะแนนผิดปกติไปตรวจทาน เปรียบเทียบคะแนนการสอบในอดีต และเปรียบเทียบกับผลการเรียนในใบระเบียนผลการเรียนหรือทรานสคริป หากขัดแย้งกับผลการสอบครูผู้ช่วย ก็น่าจะค่อนข้างผิดปกติ นอกจากนี้ อาจนำผลการปฏิบัติงานช่วงที่เป็นพนักงานราชการ หรือครูอัตราจ้างและอื่นๆ มาพิจารณาด้วยว่าเป็นเช่นไร มีปัญหาอะไรหรือไม่ ผลการปฏิบัติงานสอดคล้องกับคะแนนที่สอบได้หรือไม่
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า ที่ประชุม ก.ค.ศ.ได้ระบุไว้ตอนท้ายว่า หากสุดท้ายแล้ว อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯมีเหตุจำเป็นก็สามารถเรียกบุคคลเหล่านี้มาสอบเพิ่มเติม โดยใช้วิธีการทดสอบได้ ซึ่งในขั้นตอนการทดสอบนี้ยังไม่มีการพูดคุยกันในรายละเอียดว่า จะให้หน่วยงานใดดำเนินการ เพราะ สพฐ.เองคงไม่ดำเนินการเรื่องนี้ ควรให้หน่วยงานกลางเข้ามาทำจะดีกว่า

ด้านนายอรรคพล ตรึกตรอง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ขอนแก่น เขต 5 กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าที่ประชุม ก.ค.ศ.ควรใช้อำนาจสั่งการให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯประกาศยกเลิกผลการสอบครูผู้ช่วยครั้งที่ผ่านมาได้ เพราะในข้อ 6 ของหลักเกณฑ์และวิธีการ คัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการครู ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีมีความจำเป็น หรือมีเหตุพิเศษ ว12 ระบุว่าหากพบการกระทำที่ทุจริต ก็ให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯยกเลิกผลการสอบได้ หรือหากมีหลักฐานที่เชื่อได้ว่าส่อไปในทางไม่สุจริต ก็สามารถสั่งยกเลิกได้ ซึ่งขณะนี้ทาง ศธ.ก็มีข้อมูลเข้าข่ายที่ ก.ค.ศ.จะสั่งการให้ยกเลิกได้อยู่แล้ว แต่เหมือน ก.ค.ศ.ยังไม่ได้ดำเนินการอะไรมากนัก
นายศักดิ์สิทธิ์ ถิรทัฬหกุล ประธาน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 3 กล่าวว่า การให้ผู้สอบครูผู้ช่วยที่คะแนนสูงผิดปกติมารับการทดสอบใหม่ เป็นเพียงกระบวนการหนึ่งที่ต้องการพิสูจน์ว่า เก่งหรือไม่เก่งจริงเท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว ก.ค.ศ.ไม่กล้าฟันธงมากกว่า ไม่เข้าใจว่าทำไม ก.ค.ศ.จึงไม่มีมติสั่งการให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯประกาศยกเลิกผลการสอบไปเลย เพราะถ้า ก.ค.ศ.ไม่สั่งการอะไรมา เชื่อว่า อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯต่างๆ ก็ไม่กล้าที่จะยกเลิกอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าจะให้ผู้สอบได้คะแนนสูงผิดปกติทั้ง 509 คน เข้ารับการทดสอบแล้วได้คะแนนต่ำลง อ.ก.ค.ศ.ก็คงไม่กล้าสั่งยกเลิก เพราะผู้รับการทดสอบใหม่อาจจะอ้างว่า ไม่ได้อ่านหนังสือมากเหมือนการสอบครั้งก่อน คะแนนจึงได้น้อยลง

แหล่งข่าวระดับสูงใน ศธ.กล่าวว่า จริงๆ แล้วในที่ประชุม ก.ค.ศ.ครั้งที่ผ่านมาได้มีการสอบถามถึงประเด็นที่จะให้ ก.ค.ศ.ใช้อำนาจสั่งยกเลิกผลการสอบของกลุ่มผู้สอบได้คะแนนสูงผิดปกติทั้ง 509 คน เพราะจากข้อมูลผลการวิเคราะห์คะแนนสอบคัดเลือกครูผู้ช่วยครั้งที่ผ่านมาของนายชอบ ลีซอ อดีตผู้ตรวจราชการ ศธ.ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการวัดประเมินผล ค่อนข้างสรุปชัดเจนว่ามีความผิดปกติ และน่าจะมีการทุจริต แต่ทาง ผู้บริหารสำนักงาน ก.ค.ศ.ได้ชี้แจงว่า ก.ค.ศ.ไม่มีอำนาจสั่งยกเลิก มีอำนาจแค่ยับยั้งเท่านั้น และเวลานี้ก็ไม่สามารถใช้อำนาจได้เพราะได้มีการสั่งบรรจุไปแล้วโดย อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ

ทางด้านนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ต้นเดือน พฤษภาคมนี้ดีเอสไอจะประชุมร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อรายงานความคืบหน้าการขยายผลตรวจสอบการทุจริตสอบครูผู้ช่วย เพื่อประกอบการพิจารณาเพิกถอนสิทธิของผู้สอบได้ที่มีคะแนนสูงผิดปกติ โดยดีเอสไอจะนำพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องไปเสนอที่ประชุมว่า มีเหตุเหมาะสมในการสั่งเพิกถอนสิทธิผู้เข้าข่ายกระทำผิดหรือไม่ ซึ่งเป็นอำนาจของกระทรวงศึกษาฯในการดำเนินการทางวินัย ส่วนดีเอสไอจะดำเนินการทางอาญา ซึ่งการสอบสวนที่ผ่านมาพบข้อมูลว่ามีการกระทำผิดเชื่อมโยงในลักษณะขบวนการ แต่อยู่ระหว่างหาหลักฐานทางคดี เพื่อนำไปสู่การแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดีกับ ผู้เกี่ยวข้อง เบื้องต้นมีกลุ่มบุคคลต้องสงสัยที่ดีเอสไอเฝ้าระวังอยู่ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าอยู่ในพื้นที่ใด
รายงานข่าวแจ้งว่า ดีเอสไอจะแต่งตั้งนายชอบมาเป็นที่ปรึกษาคดีพิเศษนี้ด้วย เพื่อให้ใช้หลักวิชาการช่วยวิเคราะห์คะแนนสอบที่มีความผิดปกติ เพื่อนำข้อมูลมาประกอบหลักฐานที่ดีเอสไอได้จากการสอบปากคำพยานบุคคลว่าทั้ง 2 ส่วนนี้เกี่ยวพันกันหรือไม่ ก่อนนำไปสู่การแจ้งข้อหาทางอาญาและดำเนินการทางวินัย ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้า ดีเอสไอจะลงพื้นที่สอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีก 2 ปาก

ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน

 

Leave a Comment