กมธ.ศึกษาฯ จี้สพฐ.กระจายอำนาจ ทำหน้าที่ส่งเสริมแทนจัดการศึกษา

7 มิถุนายน 2556

เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ที่โรงแรมปริ๊น พาเลซ มหานาค นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวในการเสวนาหัวข้อ “ทิศทางการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานในอนาคต”  มีผู้บริหารสถานศึกษา นักวิชาการ และผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา 150 คนเข้าร่วม จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานต้องพลิกโฉมการศึกษาไทยให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยให้ดำเนินการตามนโยบายของนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการ ศธ.ที่ต้องการให้นำรูปแบบการจัดการศึกษาของแต่ละพื้นที่ที่ประสบความสำเร็จ ไปขยายผลในพื้นที่อื่นๆ ขณะเดียวกันจะทำอย่างไรให้การจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนลดเนื้อหาลง แต่เพิ่มการคิดวิเคราะห์ของเด็กให้มากขึ้น รวมถึง ส่งเสริมเรื่องคุณธรรมจริยธรรมให้มีการปฏิบัติอย่างชัดเจน เนื่องจากมีตัวชี้วัดว่าปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด และพฤติกรรมความรุนแรงของเด็กกลับเพิ่มมากขึ้น จากนี้จะพิจารณาด้วยว่าการปฏิรูปการศึกษา ต้องดูความสำเร็จจากตัวชี้วัดทางสังคมด้วย

“เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร ได้เสนอว่าควรกระจายภาระการจัดการศึกษาให้สมดุลมากขึ้น ทั้ง สพฐ. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และท้องถิ่น นอกจากนี้ ควรปรับเปลี่ยนบทบาทหน้าที่ของ สพฐ.จากหน่วยงานที่จัดการศึกษาเอง เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ส่งเสริม และพัฒนาการ เป็นต้นแบบของการจัดการศึกษา อีกทั้ง ควรพัฒนาอบรมครู คิดระบบของการพัฒนาครูในเชิงสมรรถนะที่ความก้าวหน้าต้องควบคู่ไปกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็ก เพราะจะเห็นว่าปัจจุบันครูก้าวหน้าในหน้าที่การงาน แต่ผลการเรียนของเด็กกลับย่ำอยู่กับที่” นายชินภัทรกล่าว

นายอมรวิชช์ นาครทรรพ์ คณะกรรมการบริหารสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) กล่าวว่า รูปแบบการใช้ชีวิตของเด็กไทยเปลี่ยนไปมาก อยู่ในภาวะที่ต้องการความรักความใส่ใจจากครูมากขึ้น แต่ระบบการศึกษาไทยทำให้ครูมีเวลาให้เด็กน้อยลง เพราะยุ่งกับภาระงานที่ไม่ใช่เรื่องการสอน ทำให้เด็กขาดที่พึ่ง และออกไปเผชิญกับความเสี่ยงต่างๆ ทั้งที่ยังขาดทักษะชีวิต จึงต้องทำให้การเรียนรู้ของเด็กมีเสน่ห์เท่าทันโลกภายนอกให้ได้ ไม่เช่นนั้นเด็กจะเรียนด้วยระบบที่เรียนแบบไม่รู้ หรือเรียนแบบคัดลอกข้อมูลมาแปะงานส่ง จึงถึงเวลาที่โจทย์การศึกษาต้องถูกยกระดับ ไม่ควรปล่อยให้การศึกษาไทยเหมือนกบอยู่ในหม้อน้ำร้อน เพราะถ้าผลิตคนออกมาทั้งระบบ เป็นคนที่ไม่รู้ มีแต่ใบปริญญา ไม่มีปัญญา ประเทศชาติจะอยู่ไม่ได้

ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน

http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=32955&Key=hotnews