โรงเรียนเอกชนวอน ศธ.แก้ปัญหาหนักอก ‘จาตุรนต์’ ไฟเขียวทุกฝ่ายช่วยคิดวิธี

29 กรกฎาคม 2556

ดร.จิระพันธุ์ พิมพ์พันธุ์ นายกสมาคมสภาการศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ตนและผู้แทนจาก 14 สมาคมการศึกษาเอกชน ได้เข้าพบนายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) โดยได้ยื่นหนังสือร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหา การจัดการศึกษาเอกชนที่ต้องการให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้แก่ การเพิ่มเงินเดือนผู้ที่จบปริญญาตรี 15,000 บาท ก่อให้เกิดวิกฤติกับโรงเรียนเอกชนอย่างมาก เพราะเท่ากับปรับเพิ่มถึง 59.95% ในขณะที่การอุดหนุนจากภาครัฐไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง จึงอยากให้ทบทวนการอุดหนุนในส่วนนี้ใหม่ รวมถึงการอุดหนุนค่าครองชีพ ซึ่งรัฐควรสนับสนุนให้เต็มจำนวน ไม่ใช่ให้เอกชนร่วมออกครึ่งหนึ่ง นอกจากนี้ควรปรับเพิ่มเงินอุดหนุนรายหัวของเด็กที่ยังต่ำกว่าความเป็นจริงให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบันด้วย

ดร.จิระพันธุ์ กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่เป็นปัญหาของโรงเรียนเอกชนในขณะนี้คือการเลื่อนไหลของครู เพราะโรงเรียนของรัฐในทุกสังกัดจะเปิดรับครูในช่วงกลางปี โดยเป็นครูที่มีวุฒิปริญญาตรี และมีใบประกอบวิชาชีพครูแล้วเท่านั้น ซึ่งครูเหล่านี้ส่วนมากจะไปจากโรงเรียนเอกชน จึงส่งผลกระทบอย่างกะทันหันต่อโรงเรียนเอกชน และทำให้เด็กเสียโอกาสการเรียนรู้เป็นอย่างมาก ดังนั้นรัฐบาลจึงควรกำหนดการสอบครูในช่วงปิดภาคเรียนที่ 2 หรือช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน อีกทั้งควรกำหนดอัตรากำลังการผลิตครูสาขาวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และสังคมศึกษา ให้เพียงพอและสอดคล้องกับความต้องการ โดยสำรวจความต้องการทั้งในโรงเรียนของรัฐ และเอกชน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขาดแคลนครู และควรกำหนดสัดส่วนการรับนักเรียนในแต่ละสังกัดให้ชัดเจน เพราะการขยายห้องเรียนในโรงเรียนรัฐส่งผลให้เด็กในโรงเรียนเอกชนทั้งสายสามัญ และสายอาชีพลดลง

ด้านนายจาตุรนต์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาสถานศึกษาเอกชนประสบปัญหาหลายเรื่องที่รอการแก้ไข ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน ตนจึงอยากให้เอกชนคิดหาวิธี หรืออาจจะจัดเวิร์กช็อปเพื่อรับฟังความคิดเห็น และรวบรวมประเด็นปัญหา รวมทั้งข้อเสนอแนะต่าง ๆ เกี่ยวกับการศึกษาเอกชนทั้งหมด จากนั้นให้นำมาเสนอตน เพื่อจะได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นร่วมกันจากทุกภาคส่วนให้ครอบคลุมทุกประเด็นปัญหาเพื่อนำไปสู่การแก้ไขอย่างแท้จริง.

–เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 30 ก.ค. 2556 (กรอบบ่าย)–

http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=33496&Key=hotnews