กสพท.รับน.ศ.แพทย์ 1-30 พ.ย.ปรับปฏิทินตามอาเซียน

30 กรกฎาคม 2556

เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ที่สมาคมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (สอท. ) นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ในฐานะรองประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) นพ.อาวุธ ศรีศุกรี เลขาธิการกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) พญ.บุญมี สถาปัตยวงศ์ ประธานอนุกรรมการจัดสอบใน กสพท. แถลงข่าวการรับสมัครสอบคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตและหลักสูตรทันตแพทยศาสตรบัณฑิต ปีการศึกษา 2557 ผ่านระบบรับตรงของกลุ่ม กสพท. โดย นพ.อาวุธกล่าวว่า กสพท.ร่วมกับ ทปอ. จัดสอบคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาระบบรับตรงของ สอท. ผ่านระบบเคลียริ่งเฮาส์ เพื่อลดภาระของนักเรียนและผู้ปกครอง ลดปัญหาการมอบตัวซ้ำซ้อนหลายสถาบันซึ่งเป็นเหตุให้เกิดการสละสิทธิ์ และมีที่นั่งว่างในแต่ละสถาบัน โดย กสพท.ได้รับมอบอำนาจจากคณะแพทยศาสตร์ 13 สถาบัน คณะทันตแพทยศาสตร์ 7 สถาบันในการรับสมัครและสอบคัดเลือกบุคคลที่มีความประสงค์จะเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตและหลักสูตรทันตแพทยศาสตรบัณฑิต ปีการศึกษา 2557 ผ่านระบบรับตรง จำนวน 1,475 คน แบ่งเป็นมหาวิทยาลัยต่างๆ ดังนี้ คณะแพทย์มหาวิทยาลัยแก่น (มข.) รับ 20 คน

นพ.อาวุธกล่าวต่อว่า คณะแพทย์ฯ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รับ 200 คน คณะแพทย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) รับ 30 คน คณะแพทย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) รับ 65 คน คณะแพทย์ มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) รับ 30 คน คณะแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล (มม.) รับ 156 คน คณะแพทย์ ศิริราชพยาบาล มม. รับ 260 คน วิทยาลัยแพทย์ฯ มหาวิทยาลัยรังสิต (โรงพยาบาลราชวิถี) รับ 40 คน วิทยาลัยแพทยศาสตร์ ม.รังสิต (โรงพยาบาลเลิดสิน) รับ 15 คน คณะแพทย์ มศว รับ 180 คน คณะแพทย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) รับ 25 คน คณะแพทย์ วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมิน ทราธิราช รับ 70 คน วิทยาลัยแพทย์ฯพระมงกุฎเกล้า เพศชาย 60 คน วิทยาลัยแพทย์ พระมงกุฎเกล้า เพศหญิง 40 คน คณะแพทย์ มหาวิทยาลัยสยาม รับ 24 คน คณะทันตแพทย์ จุฬาฯ 80 คน คณะทันตแพทย์ฯ มม.รับ 80 คน คณะทันตแพทย์ มช. รับ 25 คน คณะทันตแพทย์ฯ ม.อ.รับ 20 คน และคณะทันตแพทย์ มศว รับ 25 คน คณะทันตแพทย์ มข. รับ 10 คน และคณะทันตแพทย์ มธ. รับ 20 คน นักเรียนที่ต้องการสอบเข้ามหาวิทยาลัยใด สามารถเข้าไปตรวจสอบระเบียบ หลักเกณฑ์ต่างๆ ได้ที่เว็บไซต์ของสถาบันแต่ละแห่ง

พญ.บุญมีกล่าวว่า สำหรับการรับสมัครคัดเลือกของ กสพท.ปีนี้ มีการปรับช่วงเวลาการรับสมัครใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่ได้มีการเลื่อนเวลาเปิดภาคเรียนใน ปีการศึกษา 2557 ไปเป็นในช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน ตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน โดยจากเดิมที่ กสพท.จะรับสมัครในช่วงเดือนสิงหาคม ปรับมาเป็น รับสมัครตั้งแต่วันที่ 1-30 พฤศจิกายน พ.ศ.2556 ทางเว็บไซต์ www9.si.mahidol.ac.th และเว็บไซต์ของสถาบันที่เข้าร่วมรับคัดเลือก ชำระเงินค่าสมัครสอบคัดเลือกและสอบวิชาเฉพาะ ผ่านเคาน์เตอร์ ธนาคารไทยพาณิชย์ ระหว่าง วันที่ 1 พฤศจิกายน -3 ธันวาคม ผู้สมัครตรวจสอบสถานภาพการรับสมัครสอบคัดเลือกและสอบวิชาเฉพาะ ทางเว็บไซต์ 7 วันหลังจาก วันที่ชำระเงินค่าสมัคร ถึงวันที่ 10 ธันวาคม สอบวิชาเฉพาะ จัดสอบโดย กสพท. วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2557 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าสอบสัมภาษณ์และตรวจสุขภาพ ภายในวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ.2557

“ทั้งนี้ในการสมัครสอบ ขอให้นักเรียนดำเนินการสมัครเอง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาข้อมูลการสมัครผิดพลาดเหมือนที่ผ่านมา อีกทั้งการสมัครนั้น ควรจะต้องให้ข้อมูลจริงเท่านั้น แต่หากพบว่ามีการให้ข้อมูลเท็จ หรือปลอมแปลงเอกสาร ผู้กระทำผิดจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุด เหตุที่ต้องย้ำเรื่องนี้ เนื่องจากการรับสมัครเป็นการรับทางออนไลน์ จึงหวังว่าจะไม่มีการปลอมแปลงเอกสาร นอกจากนี้ ผู้ที่สมัครทุกคนจะต้องเก็บหลักฐานการสมัครทั้งหมดไว้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา เนื่องจากปีที่ผ่านมาพบว่านักเรียนประมาณ 1,000 คน เมื่อสมัครเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่ได้เก็บเอกสารหลักฐานต่างๆ ไว้ ทำให้เสียเวลาในหาข้อมูลย้อนหลัง และขอให้รีบมาสมัคร เพราะหากมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น จะได้แก้ปัญหาได้ทัน” พญ.บุญมีกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่เครื่องดื่มบำรุงกำลังยี่ห้อหนึ่งใช้นิสิตนักศึกษาแพทย์ โฆษณาเกินจริงจนเป็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์นั้น นพ.อาวุธกล่าวว่า กสพท.ได้หารือเรื่องนี้ และทำได้เพียงเจรจากับเจ้าของสินค้าให้ลบชื่อนิสิตนักศึกษาและสถาบันที่เรียนออก ซึ่งสินค้านั้นก็ได้ทำตามแล้ว แต่คงห้ามไม่ให้โฆษณาไม่ได้ และแพทยสภาก็ไม่สามารถเข้ามาควบคุมได้ เพราะนิสิตนักศึกษาแพทย์ ยังไม่ใช่แพทย์ สำหรับโรงเรียนแพทย์เอง ก็ไม่สามารถออกกฎเกณฑ์ห้ามไม่ให้นิสิตนักศึกษาแสดงโฆษณา เพราะถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล สิ่งที่จะทำได้คือ การให้ความรู้เกี่ยวกับคุณธรรมจริยธรรมของการเป็นแพทย์

ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน

http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=33518&Key=hotnews