หนุนจัดอับดับคุณภาพมหา’ลัยไทย’ราชภัฏ-ราชมงคล’ชี้ต้องมีเกณฑ์เฉพาะกลุ่ม

30 สิงหาคม 2556

ตามที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ มีนโยบายจัดอันดับมหาวิทยาลัยไทย เพื่อให้เกิดการแข่งขันและพัฒนาคุณภาพใกล้เคียงกัน ขณะเดียวกัน บอกสังคมให้ได้รับรู้ว่ามหาวิทยาลัยแต่ละแห่งเน้นการเรียนการสอนทางด้านใด และอยู่ในอันดับที่เท่าไรของประเทศนั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 56 นายสุขุม เฉลยทรัพย์ ที่ปรึกษาอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (มสด.) กล่าวถึงนโยบายนี้ว่าเป็นเรื่องที่ดีโดยเฉพาะในแง่ที่จะทำให้เด็กที่จะตัดสินใจเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย ได้มีโอกาสรู้ว่ามหาวิทยาลัยแต่ละแห่งมีเอกลักษณ์หลักสูตรการจัดการเรียนการสอน คุณภาพอาจารย์ผู้สอน หรือจบในสาขาที่เรียนมีโอกาสในการทำงานมากเท่าใด ซึ่งการจัดอันดับมหาวิทยาลัยจะสะท้อนเรื่องเหล่านี้ที่เป็นประโยชน์ต่อเด็กอย่างมาก

“เรื่องนี้ต้องกำหนดหลักเกณฑ์ ดัชนีชี้วัดที่ชัดเจน และต้องสอดคล้องกับทิศทางการจัดอันดับในสากลด้วย ที่สำคัญต้องไม่ลืมนึกถึงพันธกิจของแต่ละมหาวิทยาลัยซึ่งควรจะนำใช้เป็นส่วนหนึ่งของหลักเกณฑ์เพราะไม่เช่นนั้นอาจส่งผลกระทบต่อกลุ่มมหาวิทยาลัยใหม่อย่างแน่นอน” นายสุขุมกล่าว
ขณะที่ นายประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี กล่าวว่าการจัดอันดับจะส่งผลดีต่อมหาวิทยาลัยในการเร่งพัฒนาตัวเอง และประชาชนที่จะได้รับรู้ข้อมูลนำไปสู่การตัดสินใจ เพียงแต่มหาวิทยาลัยไทยนั้นมีเป้าหมายในการจัดการศึกษาและผลิตบัณฑิตแตกต่างกัน แบ่งชัดๆ ได้ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มจัดการศึกษาที่เน้นด้านสังคม หมายถึงกลุ่มมรภ. และ ม.เอกชน, กลุ่มจัดการศึกษาด้านสังคมและวิทยาศาสตร์ ได้แก่ กลุ่มมหาวิทยาลัยเก่าอย่างจุฬาฯ ม.ธรรมศาสตร์ฯลฯ และกลุ่มจัดการศึกษาเฉพาะทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้แก่ กลุ่ม มทร.กลุ่มมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้า เป็นต้นเพราะฉะนั้น หากจะจัดอันดับจะต้องกำหนดตัวชี้วัดและแยกแต่ละกลุ่มให้ชัดเจน เพราะหากใช้เกณฑ์เดียวกันเพื่อมาประเมินจัดอันดับก็จะเกิดผลกระทบ โดยเฉพาะกลุ่มมหาวิทยาลัยใหม่ มหาวิทยาลัยเอกชนอาจจะขาดความพร้อมในหลายด้าน และที่ลืมไม่ได้ในขณะนี้คือ สถาบันการอาชีวศึกษาที่เพิ่งเปิดสอนระดับปริญญาตรี จะถูกนำมารวมจัดอันดับหรือไม่

“เรื่องสำคัญ คือ กรณีมหาวิทยาลัยที่ถูกจัดอันดับรั้งท้ายรัฐควรจะต้องหามาตรการหรือแนวทางที่จะเข้ามาช่วยยกระดับคุณภาพ ตรงนี้เป็นเรื่องที่อยากขอให้ช่วยคิดหามาตรการรองรับด้วย” นายประเสริฐกล่าว

ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามรัฐ

http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=33924&Key=hotnews