บล็อกการศึกษา
แบบทดสอบออนไลน์
พาโนรามา
ประวัติวัดไหล่หินหลวง
วั
ดไหล่หินเป็นวัดเล็ก ๆ ในอำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง
อยู่ไม่ไกลจากวัดพระธาตุลำปางหลวงนัก มีตำนานเล่ากันว่าเป็นวัดเก่าแก่มาแต่สมัยพระนางจามเทวี สร้างขึ้นก่อนการสถาปนาวัดพระธาตุลำปางหลวง ด้วยเหตุนั้น จึงมีแผนผังคล้ายคลึงกัน เพียงแต่มีสัดส่วนย่อมกว่า นอกจากนั้น ภูมิสถานที่ตั้ง ก็ยังเป็นเนินใหญ่คล้ายกับวัดพระธาตุลำปางหลวง และเป็นที่มาของชื่อ ไหล่หิน (ไหล่/หล่าย คือเนิน) ด้วย
ลำ
ปางหรือเขลางค์นคร
เป็นเมืองเก่าแก่คู่กับหริภุญชัย หรือเมืองลำพูนในปัจจุบัน พรั่งพร้อมด้วยรมณียสถานทัศนา การศึกษา ถึงประวัติความเป็นมาของนครเมืองลำปางและยังมีโบราณวัตถุซึ่งควรแก่การศึกษาพร้อมกับโบราณ ที่มีความสวยงานศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดลำปางคือ..วัดไหล่หินหลวงวัดไหล่หินหลวงหรือวัดเสลารัตนปัพพะตาราม(ไหล่หินหลวงแก้วช้างยืน) ชาวบ้านมักเรียกว่าสั้นว่า....วัดไหล่หินหลวง ซึ่งอยู่บนเนินเขาเล็ก ๆ เกาะหนึ่ง ในท้องที่หมู่ที่ 2 ต.ไหล่หิน อ.เกาะคา จ.ลำปางห่างจากตัวอำเภอเกาะคาไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 6 ก.ม.เศษ มีเนื้อที่ที่ธรณีสงฆ์ประมาณ 50 ไร่เศษ สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พุทธศักราช 218 นับว่าเป็นวัดหนึ้งของจังหวัดลำปางที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์การสร้างเมืองลำปางหรือเขลางค์นคร เพราะว่าวัดนี้ได้สร้างขึ้นขณะที่ พระอรหันต์ได้อัญเชิญพระบรมสารีริธาตุขององค์สัมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาไว้ยังม่อนหินแห่งนึ้ จึงมีตำนานที่ สำคัญ จะได้เล่าขานโดยสังเขปดังนี้ ศาสตราจริกา อ้างสมัยหนึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครั้งยังทรงทรมานสำราญอยู่ในเขตเชตวันมหาวิหารมีคืนวันหนึ่งยามใกล้รุ่งพระองค์ทรงรำพึงว่าตั้งแต่กูตถาคตได้ตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณ มา ถึงบัดนี้ได้ 25 พรรษาแล้วต่อเมื่อกูมีพระชมมายุอยู่ได้ 80 พรรษาเมื่อไดกูตถาคตก็ได้เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว ควรกูจะอธิฐานธาตุให้ย่อยเพื่อให้คนทั้งหลายและพระอรหันต์ได้นำไปบรรจุไว้เป็นที่สักการะ บูชาเสมอเหมือนกูตถาคดยังวทรงมีพระชนม์ชีพอยู่พระพุทธองค์ทรงรำพึงดังนี้แล้วพอพระองค์ดับขันธปรินิพพานไปแล้วได้ 218 ปี ยังมีพระยาองค์หนึ่งทรงพระนามว่า ศรีธรรมาโศกราชได้ทรงชนะข้าศึกทั้งหลายแล้วแล้วได้อาศัยเจ้านิโครธสามเณรอยู่ ได้เลิกถอยความเลื่อมใสพวกเดียรถีย์ทั้งหลายแล้ว จึงบังเกิดความเลื่อมใสอันแก่กล้าในพระพุทธศาสนาอย่าง มาก จึงดำริที่จะสร้างพระเจดีย์เป็นที่บรรจุซึ่งพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จำนวน 84,000 องค์พระธรรมขันธ์ ต่อมาพระองค์ทรงพิจารณาหาพระบรมสารีริธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็พบที่เมืองราชคฤห์แล้ว พระองค์ก็อัญเชิญเข้าสู่เมืองนครปาตรีบุตรนคร พระองค์ทรงแบ่งพระบรมสารีริธาตุมอบให้พระเถระทั้งสองพระองค์คือพระกุมารกัสสปะและพระเมฆิยะเถระเจ้าท่านได้พระบรมสารีริธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอัญเชิญขึ้นบนหลังช้าง มาจากประเทศอินเดีย เพื่อมาประดิษฐานยังวัดพระธาตุลำปางหลวง พอขบวนช้างที่อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาถึงยังม่อนหินแห่งนี้ขบวนช้างเชือกนั้นก็ไม่ยอมเดินทางต่อถึงเจ้าจะขับจะจะใสอย่างไรช้างก็ไม่ยอมที่จะเดินทางต่อ อันเป็นเหตุที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่งนัก องค์พระอรหันต์ผู้เป็นพระประมุขของขบวนนั้น จึงพร้อมด้วยผู้คนที่ติดตามได้ปรึกษากันที่จะสมควร สร้างองค์พระเจดีย์บรรจุเอาพระบรมสารีริธาตุขององค์สัมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อไว้เป็นที่กราบไว้สักการะบูชาตลาดกาลนาน และเป็นอนุสรณ์ที่ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมายังที่แห่งนี้ด้วย
วัดไหล่หินหลวง
ทีมงานคนลำปาง
มีเว็บไซต์เพื่อการศึกษาที่
thaiall.com
,
thaiabc.com
,
lampang.net
,
จังหวัดลำปาง
โทร.081-9927223
ปรับปรุง : 2566-03-03 (ปรับปรุงเนื้อหา)
Thainame.net
Truehits.net